วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

ลางร้ายของพระมหาอุปราชา



            พระฝืนทุกข์เทวษกล้ำ         แกล่ครวญ
ขับคชบทจรจวน                             จักเพล้
บรรลุพนมทวน                                เถื่อนที่ นั้นนา
เหตุอนาถหนักเอ้                             อาจให้ชนเห็น

           เกิดเป็นหมอกมืดห้อง          เวหา หนเฮย
ลมชื่อเวรัมภา                                พัดคลุ้ม
หวนหอบหักฉัตรา                          คชขาด ลงแฮ
แลธุลีกลัดกลุ้ม                              เกลื่อนเพี้ยงจักรผัน

          พระพลันเห็นเหตุไซร้          เสียวดวง แดเอย
ถนัดดั่งภูผาหลวง                         ตกต้อง
กระหม่ากระเหม่นทรวง                 สั่นซีด พักตร์นา
หนักหฤทัยท่านร้อง                      เรียกให้โหรทาย

         ทั้งหลายล้วนจบแจ้ง           เจนไสย ศาสตร์แฮ
เห็นตระหนักแน่ใน                        เหตุห้าว
จักทูลบ่ทูลไท                              เกรงโทษ ท่านนา
เสนอแต่ดีกลบร้าว                       เกลื่อนร้ายกลายดี

          เหตุนี้ผิวเช้าชั่ว                  ฉุกเข็ญ
เกิดเมื่อยามเย็นดี                        ดอกไท้
อย่าขุ่นอย่าลำเค็ญ                     ใจเจ็บ พระเอย
พระจักลุลาภได้                           เผด็จเสี้ยนศึกสยาม



แปล (ลางร้ายของพระมหาอุปราชา)


              พระมหาอุปราชาจึงให้ยกทัพเข้าไปในเมือง แล้วยกทัพต่อไปถึงตำบลพนมทวนเกิดลมเวรัมภาพัดหอบเอาฉัตรหัก พระมหาอุปราชาตกพระทัย ทรงให้โหรทำนาย โหรทราบถึงลางร้ายแต่ไม่กล้ากราบทูลตามความจริง กลับทำนายว่า เหตุการณ์เช่นนี้ถ้าเกิดในตอนเช้าไม่ดี ถ้าเกิดในตอนเย็นจะได้ลาภ และจะชนะศึกสยามในครั้งนี้

2 ความคิดเห็น: