วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

พระมหาอุปราชารำพันถึงนาง



             มาเดียวเปลี่ยวอกอ้า          อายสู
สถิตอยู่เอ้องค์ดู                              ละห้อย
พิศโพ้นพฤกษ์พบู                           บานเบิก ใจนา
พลางคะนึงนุชน้อย                         แน่งเนื้อนวลสงวน

            สลัดไดใดสลัดน้อง            แหนงนอน ไพรฤๅ
เพราะเพื่อมาราญรอน                    เศิกไสร้
สละสละสมร                                  เสมอชื่อ ไม้นา
นึกระกำนามไม้                              แม่นแม้นทรวงเรียม

             สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง        ยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย                      ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย                                 วางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า                        หยุดได้ฉันใด



แปล(พระมหาอุปราชารำพันถึงนาง)


             เสด็จมาลำพังพระองค์เดียวเปล่าเปลี่ยวใจและน่าเศร้านัก เมื่อทรงชมต้นไม้และดอกไม้ที่ทรงพบเห็นระหว่างทางก็ค่อยเบิกบานพระทัยขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่วายคิดถึงนางสนมกำนัลทั้งหลาย
             ทรงเห็นต้นสลัดไดทรงดำริว่าเหตุใดจึงต้องจากน้องมานอนป่า มาเพื่อทำสงครามกับข้าศึก เห็นต้นสละที่ต้องสละน้องมาเหมือนชื่อต้นไม้ เห็นต้นระกำที่ชื่อต้นไม้ช่างเหมือนอกพี่แท้ๆ
            ต้นสายหยุดเมื่อสายก็หมดกลิ่น แต่ใจพี่แม้ยามสายก็ไม่คลายรักน้อง กี่วันกี่คืนที่จากน้องพี่มีแต่ความทุกข์คิดถึงน้องทุกค่ำเช้า ไม่รู้ว่าจะหยุดรักน้องได้อย่างไร

4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณจ้าา

    ก่อเกียรติ 6/2

    ตอบลบ
  2. เยี่ยมจริงทั้งในเชิงภาษา การถ่ายทอดความรู้สึกและยอดเยี่ยมสำหรับผู้รู้ที่นำมาอธิบาย

    ตอบลบ