พระเจ้ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท
ภูบาลอื้นอำนวย อวยพระพรเลิศล้น
จงอยุธย์อย่าพ้น แห่งเงื้อมมือเทอญ พ่อนา
จงเจริญชเยศด้วย เดชะ
ชาวอยุธย์อย่าพะ พ่อได้
จงแพ้พินาศพระ วิริยภาพ พ่อนา
ชนะแด่สองท่านไท้ ธิราชเจ้าจอมสยาม
สงครามความเศิกซึ้ง แสนกล
จงพ่ออย่ายินยล แต่ตื้น
อย่าลองคะนองตน ตามชอบ ทำนา
การศึกลึกเล่ห์พื้น ล่อเลี้ยวหลอกหลอน
จงแจ้งแห่งเหตุเบื้อง โบราณ
เป็นประโยชน์ยุทธการ กล่าวไว้
เอาใจทหารหาญ เริงรื่น อยู่นา
อย่าระคนปนใกล้ เกลือกกลั้วขลาดเขลา
หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้ สบสถาน
เจนจิตวิทยาการ กาจแกล้ว
รู้เชิงพิชัยชาญ ชุมค่าย ควรนา
อาจจักรอนรณแผ้ว แผกแพ้พังหนี
หนึ่งรู้บำเหน็จให้ ขุนพล
อันสมรรถมือผจญ จืดเสี้ยน
อย่าหย่อนวิริยะยล อย่างเกียจ
แปดประการกลเที้ยร ถ่องแท้ทางแถลง
จงจำคำพ่อไซร้ สั่งสอน
จงประสิทธิ์สมพร พ่อให้
จงเรืองพระฤทธิ์รอน อริราช
จงพ่อลุลาภได้ เผด็จด้าวแดนสยาม
แปล (พระเจ้ากรุงหงสาวดีประทานโอวาท)
พระเจ้าหงสาวดีก็พระราชทานพรให้ชนะศึกสยามในครั้งนี้ แล้วก็ทรงเตือนว่าสงครามนั้นมากด้วยกลอุบาย อย่าคิดอะไรตื้นๆ อย่าทะนงตน แล้วทรงชี้เรื่องที่โบราณสั่งสอนไว้ที่เป็นประโยชน์ต่อการรบ คือ โอวาท 8 ประการ
1. อย่าเป็นคนหูเบา (จงพ่อย่ายินยล แต่ตื้น)
2. อย่าทำอะไรตามใจตนเอง ไม่นึกถึงใจผู้อื่น (อย่าลองคะนองตน ตามชอบ ทำนา)
3. รู้จักเอาใจทหารให้หึกเหิมอยู่เสมอ (เอาใจทหารหาญ เริงรื่น อยู่นา)
4. อย่าไว้ใจคนขี้ขลาดและคนโง่ (อย่าระคนปนใกล้ เกลือกกลั้วขลาดเขลา)
5. ควรรอบรู้ในการจัดกระบวนทัพทุกรูปแบบ (หนึ่งรู้พยุหเศิกไสร้ สบสถาน)
6. รู้หลักพิชัยสงคราม การตั้งค่าย (รู้เชิงพิชัยชาญ ชุมค่าย ควรนา)
7. รู้จักให้บำเหน็จความดีความชอบแก่แม่ทัพนายกองที่เก่งกล้า (หนึ่งรู้บำเหน็จให้ ขุนพล
อันสมรรถมือผจญ จืดเสี้ยน)
8. อย่าลดความเพียรหรืออย่าเกียจคร้าน (อย่าหย่อนวิริยะยล อย่างเกียจ)
ครั้งทรงรับโอวาทและคำประสาทพรแล้ว ก็กราบบังคมลามาที่เกยประทับบนหลังช้างพระที่นั่งพลายพัทธกอ ยกกองทัพออกจากพระนครผ่านโขลนทวารเสด็จพระราชดำเนินไปโดยทางสถลมารคทันที
ดีมากครับ😀
ตอบลบ